ค้นหา

ฟิล์มยืด ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บและขนส่งสินค้า

การเติบโตขึ้นของธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ในปัจจุบัน ทำให้ความต้องการในการขนส่งสินค้าที่สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น รวมถึงการป้องกันไม่ให้สินค้าเสียหายจากการขนส่งที่มีจำนวนมหาศาล หนึ่งในโซลูชันที่ช่วยปกป้องสินค้าและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งให้ดียิ่งขึ้น คือการใช้ฟิล์มยืดที่มีคุณสมบัติในการยึดเกาะได้ดี เพื่อช่วยป้องกันสินค้าจากความเสียหาย โดยเป็นที่นิยมนำมาใช้งานอย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรม

รู้จักฟิล์มยืด ตัวช่วยในการขนส่งและจัดการคลังสินค้า

ฟิล์มยืด (Stretch Film) คือ ฟิล์มพลาสติกที่สามารถยืดขยายตัวได้สูงและมีแรงยึดเกาะดี ซึ่งพอลิเมอร์หลักที่ใช้ผลิตฟิล์มยืดคือ Linear Low-Density Polyethylene (LLDPE) มีคุณสมบัติที่ดีในด้าน ความเหนียว ใส ยืดตัวได้สูงโดยฟิล์มสามารถเกาะติดกันเอง โดยไม่ต้องใช้ความร้อน ช่วยให้สินค้าคงรูปได้ดีเมื่อนำมาพันรอบสินค้าหรือหีบห่อ เพื่อให้สิ่งของยึดติดกันเป็นชุดเดียว ช่วยลดความเสียหายจากการขนส่ง ป้องกันฝุ่น ความชื้น และสิ่งสกปรกต่าง ๆ นอกจากนี้ฟิล์มยืดยังช่วยลดต้นทุนในการบรรจุหีบห่อสินค้าได้อีกด้วย เนื่องจากสามารถใช้งานได้รวดเร็วและมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าวัสดุชนิดอื่นที่ใช้ในการห่อหุ้มสินค้า

ประเภทของฟิล์มยืดที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม และใช้ทำอะไรบ้าง

ฟิล์มยืด ถือเป็นวัสดุที่นำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย ตอบโจทย์อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานห่อหุ้มสินค้า พันพาเลต หรือจัดเก็บสินค้าในคลัง โดยแต่ละประเภทของฟิล์มยืดจะมีการออกแบบให้เหมาะกับลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานจริง ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

1. ฟิล์มยืดแบบพันมือ (Hand Wrap Stretch Film)

เป็นฟิล์มยืดที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาเครื่องจักร เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับการพันสินค้าขนาดเล็กหรือสินค้าที่มีจำนวนไม่มาก ทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ตอบโจทย์ธุรกิจขนาดเล็กหรือ SME ที่ยังไม่ต้องการลงทุนในเครื่องพันอัตโนมัติหรืออุปกรณ์ที่มีราคาสูง

2. ฟิล์มยืดแบบใช้เครื่องพัน (Machine Wrap Stretch Film)

เป็นฟิล์มยืดที่มีความเหนียว แข็งแรงสูง ยืดหยุ่นได้ดี โดยสามารถใช้เครื่องพันฟิล์มได้แน่นและสม่ำเสมอในทุกพาเลต ช่วยลดเวลาและแรงงาน รวมถึงข้อผิดพลาดจากการใช้แรงคน เหมาะกับโรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า หรือศูนย์กระจายสินค้าขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการขนส่งมาก ต้องการความรวดเร็ว ที่สำคัญคือ สามารถควบคุมต้นทุนได้ดี ลดการใช้วัสดุ และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโลจิสติกส์และขนส่งสินค้าในระยะยาว

ประโยชน์ของฟิล์มยืดในการขนส่งและคลังสินค้า

ทุกวันนี้ธุรกิจต่าง ๆ ได้นำฟิล์มยืดมาใช้ประโยชน์ในการขนส่งและจัดเก็บสินค้าจำนวนมาก โดยมีข้อดีที่สำคัญดังต่อไปนี้

• ช่วยให้สินค้าปลอดภัย ฟิล์มยืดช่วยยึดสินค้าให้อยู่ในตำแหน่งเดิม ลดการเคลื่อนไหวขณะขนส่ง ลดโอกาสที่สินค้าจะเสียหายหรือหล่นจากพาเลต

• ลดต้นทุนการบรรจุภัณฑ์ สามารถลดความหนาของฟิล์มได้ และมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าวัสดุชนิดอื่นที่ใช้ในการห่อหุ้มสินค้า แต่ยังคงปกป้องสินค้าได้ดี ช่วยลดต้นทุนได้

• เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง สินค้าที่ถูกพันด้วยฟิล์มยืดสามารถซ้อนกันได้ง่าย ทำให้ใช้พื้นที่ขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ

• ป้องกันฝุ่นละอองและความชื้น ช่วยป้องกันสินค้าจากสภาพแวดล้อมที่อาจส่งผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์

• เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฟิล์มยืดรุ่นใหม่สามารถรีไซเคิลได้และมีความหนาลดลงช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกในระยะยาว

จุดเริ่มต้นของฟิล์มยืดคุณภาพดีมาจากเม็ดพลาสติกที่มีคุณภาพสูง

GC ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรายใหญ่ได้พัฒนาเม็ดพลาสติก Polyethylene ภายใต้แบรนด์ InnoPlus by GC มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการผลิตฟิล์มยืด (Stretch Film) ทั้งแบบ Hand Wrap Stretch Film และ Machine Wrap Stretch Film ให้มีความหลากหลายและมีคุณสมบัติทางวิศวกรรมที่เหมาะสม ลดการใช้พลาสติก ตอบโจทย์แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ดังต่อไปนี้

1. Hand Wrap Stretch Film

เป็นฟิล์มยืดใช้สำหรับพันสินค้าขนาดเล็ก โดยลดความหนาของฟิล์ม (Downgauging) ให้บางลงจึงใช้เม็ดพลาสติกน้อยลง ช่วยลดต้นทุนการผลิต แต่ยังให้ประสิทธิภาพสูง และคงคุณสมบัติการใช้งานดังเดิม

เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตฟิล์มยืดประเภท Hand Wrap ภายใต้แบรนด์ InnoPlus by GC

• LL7420A

• LL7625A

• LL7835A

• LL7910A

2. Machine Wrap Stretch Film

เป็นฟิล์มยืดที่ใช้กับเครื่องจักร มีความแข็งแรงสูง มีความเหนียว และยังสามารถลดความหนาของฟิล์ม (Downgauging) จึงช่วยลดต้นทุน แต่ยังทนทานต่อการฉีกขาดและการทิ่มทะลุ ช่วยให้พันพาเลตได้อย่างแน่นหนา รวดเร็ว และสามารถป้องกันความเสียหายของสินค้าได้ดี รวมถึงช่วยให้การขนส่งมีประสิทธิภาพ

เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตฟิล์มยืดประเภท Machine Wrap ภายใต้แบรนด์ InnoPlus by GC

• LL7420A

• LL7625A

• LL7838AV

• LL7835A

ฟิล์มยืดพันพาเลตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงโดย GC

ฟิล์มยืด เป็นโซลูชันของการขนส่งสินค้าที่ตอบโจทย์ในหลากหลายด้าน ซึ่ง GC โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชั้นนำในเอเชีย ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตฟิล์มยืดหลากหลายเกรด ที่จะช่วยลดต้นทุน ลดความเสียหายของสินค้า เพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่ง และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น สนใจสินค้าสามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ GC ติดต่อกลับได้ทันที

ข้อมูลอ้างอิง: 

Benefits of Stretch Wrap. สืบค้นเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2568 จาก https://www.ipoly.uk.com/news/benefits-of-stretch-wrap

เป็นสารเคมีขั้นกลางที่ใช้ในการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยสิ่งทอ นอกจากนี้ โมโนเอทิลีน ไกลคอล (MEG) ยังใช้เป็นสารป้องกันการแข็งตัวของรถยนต์อันเนื่องมาจากการมีจุดเยือกแข็งต่ำเมื่อผสมกับน้ำ และถูกใช้เป็นของเหลวถ่ายเทความร้อนสำหรับระบบระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศตามที่แสดงด้านล่าง

ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) เป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุดในสารเคมีขั้นกลางสำหรับการผลิตเรซินโพลีเอสเตอร์ไม่อิ่มตัว โพลีเอสเตอร์ โพลิออลส์ เทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน อิมัลซิไฟเออร์ และมอร์ฟอลีน นอกจากนี้ ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) ยังถูกใช้ในงานที่ต้องการการดูดความชื้น สารหล่อลื่น และความผันผวนต่ำ เช่น พลาสติไซเซอร์ ตัวทำละลายในหมึกพิมพ์ สารหล่อลื่นสิ่งทอ สารดูดความชื้นและสารลดความชื้น

ไตรเอทิลีน ไกลคอล (TEG) เป็นสารที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการคายน้ำในก๊าซธรรมชาติเพื่อแยกน้ำออกจากก๊าซ ไตรเอทิลีน ไกลคอล (TEG) ถูกนำมาใช้อย่างมากในการใช้งานที่ต้องการจุดเดือดที่สูงขึ้น น้ำหนักโมเลกุลสูงขึ้น และมีความผันผวนต่ำ เช่น พลาสติไซเซอร์ เรซินโพลีเอสเตอร์ไม่อิ่มตัว สารลดแรงตึงผิว น้ำมันหล่อลื่น ของเหลวถ่ายเทความร้อน และตัวทำละลายสำหรับสารทำความสะอาดอุปกรณ์และหมึกพิมพ์

โมโนเอทาโนลามีน (MEA) ใช้สำหรับสารเคมีขั้นกลางในการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล สารลดแรงตึงผิว เวชภัณฑ์ยา ตัวนำการสครับบิงก๊าซเพื่อใช้ในการดูดซับและกำจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงกลั่นและก๊าซธรรมชาติสตรีม

ไดเอทาโนลามีน (DEA) ใช้เป็นสารเคมีขั้นกลางในการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล สารลดแรงตึงผิว สารเคมีทางการเกษตร (สารกำจัดวัชพืช) ตัวนำการสครับบิงก๊าซในโรงกลั่น และการยับยั้งการกัดกร่อน

สารกำจัดวัชพืชที่มีปริมาณการใช้งานมากอย่างแพร่หลาย ทั้งในการจัดการเกษตร และการตกแต่งสวน โดยวิธีฉีดพ่นและดูดซึมทางใบ วิธีฉีดเข้าลำต้น หรือหยอดที่ยอด

ไตรเอทาโนลามีน (TEA) ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในสูตรผสมซีเมนต์ เพื่อช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการบดปูนซีเมนต์คุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการใช้พลังงานและระยะเวลาการผลิตซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการเร่งการก่อตัวของคอนกรีต ซึ่งเป็นการลดเวลาที่ต้องใช้ในการติดตั้งและเพิ่มความแข็งแรงของคอนกรีตอีกด้วย

สารช่วยบดละเอียดในการผลิตซีเมนต์ (Cement Grinding Aid) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการบดปูนซีเมนต์ให้ได้คุณภาพสูงพร้อมกับช่วยลดการใช้พลังงาน ลดระยะเวลาและค่่าใช้จ่ายในการผลิตได้

ตัวทำละลายที่ปราศจาก VOCs และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสีที่มีน้ำเป็นพื้นฐานจะใช้งานได้ดีในสีลาเท็กซ์ เช่น อะคริลิค อะคริลิคสไตรีน ฯลฯ ในสภาพอากาศหลากหลาย และบนพื้นผิวที่มีรูพรุนต่างกัน

ด้วยคุณสมบัติของระยะเวลาที่มากขึ้น ความเปียกในทุกสภาพการใช้งาน ความเสถียรในการหลอมละลาย และความสามารถในการชะลอการเกาะตัวบนพื้นผิวในสีที่มีน้ำเป็นพื้นฐาน อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติของสี รวมถึง ความหนืด ความเป็นกรดด่าง การพัฒนาของสี และคุณสมบัติของฟิล์ม เช่น สกปรกยาก มันเงา ทนต่อรอยขีดข่วน สามารถล้างได้ ทนน้ำ และทนต่อการแตก

สีสำหรับทาอาคาร เพื่อความสวยงามและทนทานจากสภาวะต่างๆ มีคุณสมบัติยืดหยุ่นต่อพื้นผิว ป้องกันน้ำรั่วซึม ทนเชื้อราทั้งภายนอกและภายใน และดูแลทำความสะอาดได้ง่าย สีทาอาคารบางชนิดยังสามารถช่วยสะท้อนความร้อนเพื่อประหยัดพลังงานของเครื่องทำความเย็น และเป็นสีที่ไร้กลิ่น ไร้สารพิษปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย

ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) เป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุดในสารเคมีขั้นกลางสำหรับการผลิตเรซินโพลีเอสเตอร์ไม่อิ่มตัว โพลีเอสเตอร์ โพลิออลส์ เทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน อิมัลซิไฟเออร์ และมอร์ฟอลีน นอกจากนี้ ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) ยังถูกใช้ในงานที่ต้องการการดูดความชื้น สารหล่อลื่น และความผันผวนต่ำ เช่น พลาสติไซเซอร์ ตัวทำละลายในหมึกพิมพ์ สารหล่อลื่นสิ่งทอ สารดูดความชื้นและสารลดความชื้น

เป็นสารเคมีขั้นกลางที่ใช้ในการผลิตเส้นใยโพลีเอสเตอร์และเส้นใยสิ่งทอ นอกจากนี้ โมโนเอทิลีน ไกลคอล (MEG) ยังใช้เป็นสารป้องกันการแข็งตัวของรถยนต์อันเนื่องมาจากการมีจุดเยือกแข็งต่ำเมื่อผสมกับน้ำ และถูกใช้เป็นของเหลวถ่ายเทความร้อนสำหรับระบบระบายอากาศ และเครื่องปรับอากาศตามที่แสดงด้านล่าง

ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) เป็นสารเคมีที่ใช้มากที่สุดในสารเคมีขั้นกลางสำหรับการผลิตเรซินโพลีเอสเตอร์ไม่อิ่มตัว โพลีเอสเตอร์ โพลิออลส์ เทอร์โมพลาสติกโพลียูรีเทน อิมัลซิไฟเออร์ และมอร์ฟอลีน นอกจากนี้ ไดเอทิลีน ไกลคอล (DEG) ยังถูกใช้ในงานที่ต้องการการดูดความชื้น สารหล่อลื่น และความผันผวนต่ำ เช่น พลาสติไซเซอร์ ตัวทำละลายในหมึกพิมพ์ สารหล่อลื่นสิ่งทอ สารดูดความชื้นและสารลดความชื้น

ไตรเอทิลีน ไกลคอล (TEG) เป็นสารที่ใช้กันมากที่สุดสำหรับการคายน้ำในก๊าซธรรมชาติเพื่อแยกน้ำออกจากก๊าซ ไตรเอทิลีน ไกลคอล (TEG) ถูกนำมาใช้อย่างมากในการใช้งานที่ต้องการจุดเดือดที่สูงขึ้น น้ำหนักโมเลกุลสูงขึ้น และมีความผันผวนต่ำ เช่น พลาสติไซเซอร์ เรซินโพลีเอสเตอร์ไม่อิ่มตัว สารลดแรงตึงผิว น้ำมันหล่อลื่น ของเหลวถ่ายเทความร้อน และตัวทำละลายสำหรับสารทำความสะอาดอุปกรณ์และหมึกพิมพ์

โมโนเอทาโนลามีน (MEA) ใช้สำหรับสารเคมีขั้นกลางในการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล สารลดแรงตึงผิว เวชภัณฑ์ยา ตัวนำการสครับบิงก๊าซเพื่อใช้ในการดูดซับและกำจัดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงกลั่นและก๊าซธรรมชาติสตรีม

ไดเอทาโนลามีน (DEA) ใช้เป็นสารเคมีขั้นกลางในการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล สารลดแรงตึงผิว สารเคมีทางการเกษตร (สารกำจัดวัชพืช) ตัวนำการสครับบิงก๊าซในโรงกลั่น และการยับยั้งการกัดกร่อน

สารกำจัดวัชพืชที่มีปริมาณการใช้งานมากอย่างแพร่หลาย ทั้งในการจัดการเกษตร และการตกแต่งสวน โดยวิธีฉีดพ่นและดูดซึมทางใบ วิธีฉีดเข้าลำต้น หรือหยอดที่ยอด

ไดเอทาโนลามีน (DEA) ใช้เป็นสารเคมีขั้นกลางในการผลิตผงซักฟอก ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล สารลดแรงตึงผิว สารเคมีทางการเกษตร (สารกำจัดวัชพืช) ตัวนำการสครับบิงก๊าซในโรงกลั่น และการยับยั้งการกัดกร่อน

สารกำจัดวัชพืชที่มีปริมาณการใช้งานมากอย่างแพร่หลาย ทั้งในการจัดการเกษตร และการตกแต่งสวน โดยวิธีฉีดพ่นและดูดซึมทางใบ วิธีฉีดเข้าลำต้น หรือหยอดที่ยอด

ไตรเอทาโนลามีน (TEA) ถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในสูตรผสมซีเมนต์ เพื่อช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการบดปูนซีเมนต์คุณภาพสูง ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดการใช้พลังงานและระยะเวลาการผลิตซึ่งเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต นอกจากนี้ ยังมีความสามารถในการเร่งการก่อตัวของคอนกรีต ซึ่งเป็นการลดเวลาที่ต้องใช้ในการติดตั้งและเพิ่มความแข็งแรงของคอนกรีตอีกด้วย

สารช่วยบดละเอียดในการผลิตซีเมนต์ (Cement Grinding Aid) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอนการบดปูนซีเมนต์ให้ได้คุณภาพสูงพร้อมกับช่วยลดการใช้พลังงาน ลดระยะเวลาและค่่าใช้จ่ายในการผลิตได้

ตัวทำละลายที่ปราศจาก VOCs และปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสีที่มีน้ำเป็นพื้นฐานจะใช้งานได้ดีในสีลาเท็กซ์ เช่น อะคริลิค อะคริลิคสไตรีน ฯลฯ ในสภาพอากาศหลากหลาย และบนพื้นผิวที่มีรูพรุนต่างกัน

ด้วยคุณสมบัติของระยะเวลาที่มากขึ้น ความเปียกในทุกสภาพการใช้งาน ความเสถียรในการหลอมละลาย และความสามารถในการชะลอการเกาะตัวบนพื้นผิวในสีที่มีน้ำเป็นพื้นฐาน อีกทั้งยังไม่มีผลกระทบต่อคุณสมบัติของสี รวมถึง ความหนืด ความเป็นกรดด่าง การพัฒนาของสี และคุณสมบัติของฟิล์ม เช่น สกปรกยาก มันเงา ทนต่อรอยขีดข่วน สามารถล้างได้ ทนน้ำ และทนต่อการแตก

สีสำหรับทาอาคาร เพื่อความสวยงามและทนทานจากสภาวะต่างๆ มีคุณสมบัติยืดหยุ่นต่อพื้นผิว ป้องกันน้ำรั่วซึม ทนเชื้อราทั้งภายนอกและภายใน และดูแลทำความสะอาดได้ง่าย สีทาอาคารบางชนิดยังสามารถช่วยสะท้อนความร้อนเพื่อประหยัดพลังงานของเครื่องทำความเย็น และเป็นสีที่ไร้กลิ่น ไร้สารพิษปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย

การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในปัจจุบันได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความไม่แน่นอนในการเพาะปลูก รวมถึงคุณภาพและปริมาณของผลผลิตทางการเกษตร เกษตรกรในหลายพื้นที่จึงเริ่มเปลี่ยนแนวทางการทำเกษตรกรรม โดยหันมาใช้เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่เพื่อเสริมสร้างเสถียรภาพของการสร้างผลผลิต หนึ่งในแนวทางที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องคือ “การปลูกพืชภายใต้ฟิล์มคลุมโรงเรือน (Greenhouse film)” ซึ่งเป็นโครงสร้างที่ถูกออกแบบมาเพื่อควบคุมสภาพแวดล้อมที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช อาทิ แสง อุณหภูมิ ความชื้น ตลอดจนการป้องกันศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ

ฟิล์มคลุมโรงเรือน พัฒนาขึ้นจากแนวคิดที่ว่าพืชสามารถเติบโตได้ดีที่สุดภายใต้สภาพแวดล้อมที่ถูกควบคุมอย่างเหมาะสม ปัจจัยที่มีผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตของพืช ได้แก่ แสงแดดในช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม ต่อกระบวนการสังเคราะห์แสง ความชื้นสัมพัทธ์ที่เหมาะสมเพื่อส่งเสริมการเปิดปากใบและการคายน้ำ รวมถึงอุณหภูมิที่ควบคุมได้ซึ่งช่วยยืดฤดูการเพาะปลูก และช่วยลดความเสี่ยงจากโรคพืชและแมลงศัตรูพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในประเทศไทย การประยุกต์ใช้ฟิล์มคลุมโรงเรือน สามารถเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในหลายโครงการ ซึ่งได้มีการนำฟิล์มคลุมโรงเรือนมาใช้ในการเพาะปลูกผักเมืองหนาว พืชสมุนไพร และไม้ดอก เพื่อเพิ่มผลผลิตและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกร

กรณีศึกษา: ความร่วมมือเพื่อพัฒนาฟิล์มคลุมโรงเรือนคุณภาพสูง 

หนึ่งในตัวอย่างความสำเร็จของการประยุกต์ใช้ฟิล์มคลุมโรงเรือนในประเทศไทย คือความร่วมมือระหว่าง GC และพันธมิตรที่ส่งเสริมการเกษตรบนพื้นที่สูง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตพืชผักเมืองหนาวด้วยการใช้ฟิล์มคลุมโรงเรือน ภายใต้ความร่วมมือนี้ เม็ดพลาสติก InnoPlus by GC ได้ถูกเลือกใช้เข้ามาในสูตรการผลิตที่ผสมผสานระหว่าง LLDPE, mLLDPE และ LDPE เพื่อให้ได้ฟิล์มที่มีสมดุลระหว่างความใส ความเหนียว และความยืดหยุ่น เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายของพื้นที่ภูเขาสูง

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ฟิล์มในโครงการนี้ ได้แก่:

• Downgauging film: ฟิล์มสามารถลดความหนาจาก 150 ไมครอน เหลือเพียง 100 ไมครอน ซึ่งเทียบเท่ากับการลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกลงถึง 50% โดยไม่ส่งผลกระทบต่อคุณสมบัติด้านความแข็งแรงหรือความทนทานของฟิล์ม

• ผ่านการทดสอบภาคสนามโดยผู้ใช้งานจริง: สามารถใช้งานจริงในพื้นที่เพาะปลูกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของพืชหรือผลผลิตทางการเกษตร

• ทนทานใช้งานได้นานกว่า 3 ปี: แม้ในสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนสูง ฟิล์มยังคงคุณภาพ ไม่ฉีกขาดง่าย และสามารถป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจุบัน การใช้ฟิล์มคลุมโรงเรือนดังกล่าวได้ถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายในโรงเรือนเพาะปลูกผักเมืองหนาว เช่น ผักกาดหอม เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค และไม้ดอกเมืองหนาว เช่น เยอบีร่า กุหลาบ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของมูลนิธิโครงการหลวง

ผลลัพธ์ที่ได้รับ:

• เพิ่มผลผลิตโดยเฉลี่ย 30-50% เมื่อเทียบกับการปลูกกลางแจ้ง

• ลดการใช้สารเคมีและปริมาณน้ำในการเพาะปลูก

• ลดต้นทุนในระยะยาวจากอายุการใช้งานของฟิล์มที่ยาวนานและการลดปริมาณเม็ดพลาสติก

• ยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในพื้นที่สูงผ่านรายได้ที่เพิ่มขึ้นและผลผลิตที่มีคุณภาพส่งออก

กรณีศึกษานี้สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของการพัฒนาเทคโนโลยีฟิล์มคลุมโรงเรือนที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย ทั้งในมิติของนวัตกรรม วัตถุดิบคุณภาพสูง และการออกแบบเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว

GC ในฐานะผู้ผลิตเม็ดพลาสติก PE รายใหญ่ของประเทศไทย ได้พัฒนาเม็ดพลาสติกภายใต้แบรนด์ InnoPlus by GC เพื่อตอบโจทย์การผลิตฟิล์มคลุมโรงเรือนสำหรับใช้งานในภาคการเกษตร โดยได้พัฒนาเกรดที่หลากหลายช่วยเสริมคุณสมบัติให้กับฟิล์มโรงเรือนได้อย่างดี ได้แก่

• LL7610A ช่วยให้ฟิล์มทนต่อการฉีกขาดสูง รองรับแรงดึง แรงลมได้ดี

• LL7810A/LL7910A ช่วยให้ฟิล์มมีความเหนียวแข็งแรง ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น

• LD2420D ช่วยให้ฟิล์มมีความใส ขึ้นรูปง่าย ช่วยลดเวลาในการผลิต

• HD7000F ช่วยให้ฟิล์มกระจายแสงได้สม่ำเสมอทั้งโรงเรือน ทำให้พืชสังเคราะห์แสงได้ดี

โดยผู้ผลิตสามารถนำเกรดเข้ามาผสมในสูตรเพื่อเสริมประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถที่จะลดความหนาของฟิล์มลง (Downgauging) ได้ ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ด้านธุรกิจแล้วยังช่วยเรื่องของสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

ดังนั้น การใช้ฟิล์มคลุมโรงเรือนจึงถือเป็นทางเลือกเชิงกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตทางการเกษตรของไทย โดยสามารถสร้างความมั่นคงทางอาหาร ควบคุมคุณภาพผลผลิต และส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนได้ในระยะยาว ทั้งนี้ ความสำเร็จดังกล่าวย่อมต้องอาศัยการเลือกใช้วัสดุคุณภาพสูง ซึ่งรวมถึงเม็ดพลาสติก PE ผสมผสานในสูตรที่พัฒนามาโดยเฉพาะสำหรับฟิล์มโรงเรือนเหมาะกับการใช้งานในสภาวะแวดล้อมที่ท้าทายของภาคการเกษตรของไทย

สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเม็ดพลาสติกสามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ GC ติดต่อกลับได้ทันที