โซลูชั่นส์

เม็ดพลาสติกสำหรับกลุ่มงานฝาขวด

การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องดื่มและอาหารช่วยผลักดันการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกและความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ฝาจากเม็ดพลาสติกสำหรับฝาขวดอย่างรวดเร็ว
แนวโน้มของบรรจุภัณฑ์เครื่องดื่ม คือ การมีน้ำหนักเบาและมีคอขวดสั้นตามมาตรฐาน การใช้ผลิตภัณฑ์ฝาที่มีน้ำหนักเบากำลังแพร่หลายในอุตสาหกรรมเครื่องดื่ม โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้โพลิเมอร์ผลิตฝาขวดน้อยลง ผลิตภัณฑ์ฝาจึงต้องการความสมดุลระหว่างความเหนียวและความแข็งแรง รวมถึงกระบวนการผลิตที่ง่ายและยอดเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานในผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม ซึ่งรวมถึงน้ำเปล่า เครื่องดื่มพาสเจอร์ไรซ์ และน้ำอัดลม

เม็ดพลาสติกสำหรับผลิตภัณฑ์ฝา
สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์

โซลูชั่นส์ด้านผลิตภัณฑ์

FAQ

  1. Q : พลาสติกเสื่อมสภาพ

    A : ปรับลดอุณหภูมิในระหว่างการขึ้นรูป

  2. Q : มีส่วนผสมของรีไซเคิล หรือ regrind มากเกินไป

    A : ลดส่วนผสมของรีไซเคิล หรือ regrind

  3. Q : สิ่งปนเปื้อน

    A : ตรวจสอบสิ่งเจือปนในเม็ดพลาสติก และล้างเครื่องจักรให้สะอาด

  4. Q : เวลาที่ใช้ในการหลอมพลาสติกนานเกินไป

    A : ลดรอบการผลิต

  5. Q : ขนาดของ Gate เล็กเกินไป และที่ตั้งไม่เหมาะสม

    A : ปรับขนาดของ Gate ให้ใหญ่ขึ้น และย้าย Gate ออกจาบริเวณที่เป็นจุดความเครียด

  1. Q : อุณหภูมิของเนื้อพลาสติกและแม่พิมพ์ร้อนหรือเย็นเกินไป

    A : ปรับอุณหภูมิของเนื้อพลาสติกและแม่พิมพ์ให้เหมาะสม

  2. Q : ความดันฉีดและความดันย้ำน้อยเกินไป

    A : เพิ่มความดันฉีดและความดันยำ

  3. Q : ความเร็วในช่วงเติมพลาสติกเหลวให้เต็มแม่พิมพ์ไม่เหมาะสม

    A : ปรับความเร็วในช่วงเดิมพลาสติกเหลวให้เต็มแม่พิมพ์ให้เหมาะสม

  4. Q : รอบการผลิตสั้นเกินไป

    A : เพิ่มเวลาในการหล่อเย็นให้มากขึ้น

  5. Q : เม็ดพลาสติกมีความหนาแน่นมากเกินไป

    A : เลือกใช้เม็ดพลาสติกที่มีความหนาแน่นต่ำกว่า

  1. Q : ลักษณะผิวแม่พิมพ์ไม่ดีพอ

    A :- ทำการขัดส่วนแม่พิมพ์โดยเฉพาะด้านล่างสุด
    - ตรวจสอบการชำรุดบริเวณผิวหน้าของแม่พิมพ์
    - เติมสารเติมแต่งจำพวกน้ำยาถอดแบบ

  2. Q : ใช้ความดันสูงและเวลานานเกินไปในการขึ้นรูป

    A : ปรับลดเวลาในการฉีดขึ้นรูปสำหรับ forward time และ boost time

  3. Q : รอบระยะเวลาในการขึ้นรูปสั้นเกินไป

    A : ปรับรอบระยะเวลาในการขึ้นรูปให้มากขึ้น

  4. Q : ชิ้นงานเย็นตัวไม่สมบูรณ์

    A :- ปรับเพิ่มเวลาในการหล่อเย็น
    - ปรับลดอุณหภูมิของเนื้อพลาสติกเหลว
    - ปรับลดอุณหภูมิของแม่พิมพ์

  5. Q : การอัดตัวของเนื้อพลาสติกมากเกินไป

    A : ปรับลดความดันในการฉีดขึ้นรูป และปรับลดเวลาของ forward time ในสกรู และ boost time ในระหว่างการฉีดขึ้นรูป

  1. Q : อุณหภูมิของเนื้อพลาสติกสูงเกินไป

    A : ปรับลดอุณหภูมิของพลาสติกเหลว

  2. Q : ความเร็วรอบสกรูมากเกินไป

    A : ปรับลดความเร็วรอบสกรู

  3. Q : ปริมาณ regrind มากเกินไป

    A : ลดปริมาณ regrind

  1. Q : ความดันของการฉีดน้อยเกินไป

    A : เพิมความดันของการฉีดให้มากขึ้น

  2. Q : อุณหภูมิของเนื้อพลาสติกและแม่พิมพ์นั้นต่ำเกินไป

    A : เพิ่มอุณหภูมิของระบบหล่อเย็นในระบบให้สูงขึ้น

  3. Q : Injection forward time และ boost time สั้นเกินไป

    A : เพิ่มระยะเวลา forward และ boost time

  4. Q : ความเร็วในช่วงเติมพลาสติกเหลวให้เต็มแม่พิมพ์ต่ำเกินไป

    A : ปรับเพิ่มความเร็วในช่วงเติมพลาสติกเหลวให้เต็มแม่พิมพ์ให้สูงขึ้น

  5. Q : ขนาดของ runners, gates และ nozzle เล็กเกินไป

    A : ปรับขนาดของ runners, gates และ nozzle ให้เหมาะสมกับการขึ้นรูปต่าง ๆ

  6. Q : จำนวน gates ของแม่พิมพ์มีน้อยเกินไป

    A : เพิ่มจำนวน gates ของแม่พิมพ์

  7. Q : มีอากาศตกค้างทำเกิด back pressure ภายในแม่พิมฬ

    A : เพิ่มรูระบายอากาศในแม่พิมพ์ให้มากขึ้น

  1. Q : อุณหภูมิของพลาสติกเหลวและแม่พิมพ์นั้นต่ำเกินไป

    A : ปรับเพิ่มลดอณหภูมิของพลาสติ๊กเหลวและแม่พิมพ์

  2. Q : อุณหภูมิและการไหลของเนื้อพลาสติกเหลวไม่คงที่

    A : ใช้ความดัน back pressure ให้สูงขึ้นปรับความเร็วหรือรอบในการหมุนของสกรู

  3. Q : อัตราในการฉีดต่ำ

    A : เพิ่มความเร็วฉีด

  4. Q : มีการกักอากาศภายในแม่พิมพ์

    A : เพิ่มการระบายอากาศ

  1. Q : อุณหภูมิของเนื้อพลาสติกและแม่พิมพ์นั้นต่ำเกินไป

    A : เพิ่มอุณหภูมิของเนื้อพลาสติกและแม่พิมพ์นั้นให้สูงขึ้น

  2. Q : ผิวของแม่พิมพ์มีสารหล่อลื่นมากเกินไป

    A : ใช้ปริมาณสารหล่อลื่นกับแม่พิมพ์ให้น้อยลง

  3. Q : ความเร็วที่ใช้ในการฉีดเนื้อพลาสติกเข้าแม่แบบต่ำเกินไป

    A : เพิ่มความเร็วที่ใช้ในการฉีดเนื้อพลาสติกให้สูงขึ้น

  4. Q : เม็ดพลาสติกเสียสภาพในระหว่างการหลอมขึ้นรูป

    A : ลดอุณหภูมิในการหลอมขึ้นรูป

  5. Q : สภาพผิวของแม่พิมพ์ไม่ดี

    A : ทำความสะอาดและขัดบริเวณผิวด้านในของแม่พิมพ์

  1. Q : การป้อนพลาสติกไม่สม่ำเสมอ

    A :- ปรับอุณหภมิที่ใช้ในการบรรจุให้เหมาะสม
    - เพิ่ม shot size เพื่อให้ได้แรงกระแทกที่พอเหมาะ
    - เปลี่ยน check valve ถ้าไม่สามารถปรับแรงกระแทกให้พอเหมาะได้

  2. Q : การอัดตัวของเนื้อพลาสติกไม่ดีพอ

    A : เพิ่มเวลาและความดันในการฉีดไปข้างหน้าเพื่อให้แน่ใจว่า gate เกิดการแข็งตัวแล้ว

  3. Q : รึไซเคิลมีความไม่เสมอในคุณภาพ

    A : ตรวจสอบขั้นตอนในการผสมไซเคิล หรือลดการใช่รีไซเคิล

  4. Q : การเปลี่ยนแปลงความดันในการหลอม

    A :- เพิ่มความดันในการบรรจุเพื่อเป็นคงให้สภาวะการไหลส่วนมากมีค่าความเร็วตามที่เลือกไว้
    - เพิ่มความดันในการอัดย้ำไปยังค่าที่มากที่สุด
    - เพิ่มอัตราในการฉีด

  5. Q : ระบบ runner ไม่สมดุล

    A : ทำให้ขนาดของ gate และ runner สมดุลเพื่อทำให้การบรรจุสมดุล

  1. Q : อุณหภูมิในการหลอมเหลวตำ

    A : เพิ่มอุณหภูมิในการหลอมเหลว

  2. Q : อุณหภูมิของแม่พิมพ์ต่ำ

    A : เพิ่มอุณหภูมิแม่พิมฬ

  3. Q : ขนาดของ gate เล็กเกินไป

    A : เพิ่มขนาดของ gate

  4. Q : ความหนาของผนังมีคำไม่คงที่

    A : ออกแบบชิ้นส่วนภายในแม่พิมพ์ใหม่ เพื่อให้ได้ผน้งที่มีความหนาเป็นค่าเดียว

  1. Q : แม่พิมพ์ประกบตัวเร็วเกินไปเนื่องจากความดันที่ใช้ในการประกบแม่พิมพ์สูง

    A : ลดความเร็วรอบเพื่อให้แม่พิมพ์ประกบตัวช้าลง

  2. Q : สภาพผิวของแม่พิมพ์ไม่ดี

    A : ทำการขัดบริเวณผิวด้านในของแม่พิมพ์

  3. Q : เม็ดพลาสติกมีความชื้นปนเปื้อน

    A : ทำการอบเม็ดพลาสติกก่อนทำการใช้งาน

  1. Q : อุณหภูมิของแม่พิมพ์สูงเกินไป

    A : ลดอุณหภูมิของแม่พิมพ์ลง

  2. Q : ใช้ความดันในการอัดแม่พิมพ์ต่ำเกินไป

    A : เพิ่มแรงกดของการอัดเนื้อพลาสติกลงในแม่พิมพ์

  3. Q : ระยะเวลาของรอบการผลิตสั้นเกินไป

    A : เพิ่มระยะเวลาของรอบการผลิต

  1. Q : อณหภูมิแม่พิมพ์ต่ำมากเกินไป

    A : ปรับอุณหภูมิของแม่พิมพ์ให้สูงขึ้น

  2. Q : เกิดจากการขัดเงาในแม่พิมพ์ไม่ดีพอ

    A : ขัดเงาผิวในแม่พิมพ์