ค้นหา

เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงานสัมมนาออนไลน์เรื่อง “จากยานยนต์โลก สู่ยานยนต์ไทย ลงทุนใหม่ จับกระแสไฟฟ้า” ให้กับลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ โดยมีวิทยากรประกอบด้วย

1. ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ - ผู้อำนวยการ อุตสาหกรรมพัฒนามูลนิธิ สถาบันยานยนต์

2. คุณปิยะลาภ ฤดีเลิศ - Technical Service Manager บริษัท ไดนาชิสโซ่ ไทย จำกัด

3. คุณพนัส จิตติอาภรณ์ - Application Engineer บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จากัด (มหาชน)

โดยในงานสัมมนาได้บรรยายเกี่ยวกับทิศทางและสถานการณ์อุตสาหกรรมยานยนต์ในปัจจุบันและอนาคต พัฒนาการของอุตสาหกรรมยานยนต์: 5S (Save Time, Save Life, Serve Life, Save Cost, Save Earth) รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์ Compounding ของบริษัทไดนาชิสโซ่ ไทย และแนะนำผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติก InnoPlus และ PlastMate ที่เหมาะแก่การนำไปผลิตวัสดุชิ้นส่วนยานยนต์อีกด้วย

สำหรับผลิตภัณฑ์ InnoPlus และ PlastMate ที่ได้แนะนำในงานสัมมนาครั้งนี้ได้แก่

InnoPlus

• 
  

  ปัจจุบัน GC ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เกรด HD7800B เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Truck-Bed Liner โดยมีคุณสมบัติการขึ้นรูปที่ดีขึ้น ง่ายขึ้น ทนแรงกระแทกสูงขึ้น และมีน้ำหนักเบา

  
  


• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด HD6000F และ LL8420A เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Wheel Arch Liner/Fender โดยเม็ดพลาสติกถูกออกแบบมาให้มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความแข็งแรง การขึ้นรูปที่ง่าย และทนแรงกระแทกได้ดี

  
  


• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด LL8420A เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Mud Flaps มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความแข็งแรง การขึ้นรูปที่ง่าย และทนแรงกระแทกได้ดี

  
  


• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด HD6200B เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Reservoir Tank (อุปกรณ์กักเก็บของเหลว หม้อน้ำยาฉีดกระจก) เม็ดพลาสติกออกแบบให้มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องทนสารเคมี แข็ง ทรงรูป และขึ้นรูปได้ง่าย

  
  


• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด HD6200B และ HD6600B เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Air Duct มีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องความแข็งแรง ไม่ส่งกลิ่นรบกวนในห้องโดยสาร และขึ้นรูปได้ง่าย

  
  

PlastMate

• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด PC20006JBK และ PC20006JGY เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Instrument Panel (IP) มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความแข็งและทรงรูปของชิ้นงาน ผิวของสินค้ามีความสวยงามและหรูหรา รวมถึงลดการปล่อยสารระเหย (Low Fogging) ที่อาจทำให้เกิดการบดบังของทัศนวิสัยในห้องโดยสาร

  
  


• 
  

  ผลิตภัณฑ์เกรด LD2420D และ C2110EH เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการขึ้นรูปผลิตภัณฑ์ Floor Mat มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องการยืดหยุ่น การป้องกันการขีดข่วน และไม่ส่งกลิ่นรบกวนในห้องโดยสาร

  
  

ทั้งนี้ GC ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะสมกับการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์ ประกอบด้วยวัสดุที่ใช้สำหรับ Battery Separator และวัสดุที่ใช้สำหรับ EV Charging Station อีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ csc@pttgcgroup.com

              เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC จัดงานสัมมนาออนไลน์เรื่อง "Bioplastics: From Global to local - Legislation and Market" ให้กับลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ โดยได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง Bioplastics หรือพลาสติกชีวภาพ มาร่วมบรรยาย ประกอบด้วย

1. 
   

   คุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ: นายกสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย (TBIA)

   
   


2. 
   

   คุณวาฑิต วทัญญูไพศาล: ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจและวิศวกรเทคนิค NatureWorks LLC

   
   


3. 
   

   คุณอนุวัฒน์ ประทุมยศ: Senior Application Engineer บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)

   
   

โดยในงานสัมมนาได้บรรยายเกี่ยวกับกฎหมายของภูมิภาคต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Bioplastics โดยเฉพาะในภูมิภาค EU ซึ่งเป็นต้นแบบของประเทศต่างๆ ทั่วโลก และได้ยกตัวอย่างกฎหมาย เช่น Single Use Plastic Directive หรือ SUPD, Policy Framework for bio-based/ biodegradable and compostable plastics, Packaging and packaging waste Regulation, EU Climate agenda-fit for 55 เป็นต้น และยังได้บรรยายเกี่ยวกับแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติกของประเทศไทย รวมถึงแนะนำผลิตภัณฑ์ Bioplastics ของบริษัท GC, Natureworks และ PTTMCC BIOCHEM

สำหรับผลิตภัณฑ์ Bioplastics ที่ได้แนะนำและจัดจำหน่ายในกลุ่มของ GC ในงานสัมมนาครั้งนี้ได้แก่

PLA: จัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ Ingeo ของบริษัท Natureworks มีกำลังการผลิต 150,000 ตัน/ปี และในปี 2567 จะเปิดโรงงานพลาสติกชีวภาพ Polylactic Acid (PLA) แห่งที่ 2 ที่โครงการนครสวรรค์ไบโอคอมเพล็กซ์ ประเทศไทย โดยที่โครงการดังกล่าวใช้น้ำตาลจากอ้อยเป็นวัตถุดิบหลักเพื่อผลิต Lactic Acid ซึ่งนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต PLA 75,000 ตันต่อปี โดยจุดเด่นของ PLA คือ 100% renewable source ใส แข็งและทรงตัว ส่วนมากจะนำไปใช้ในงาน Rigid Packaging สำหรับผลิตภัณฑ์ PLA ที่แนะนำในการใช้งานด้านต่างๆ เช่น Ingeo 2003D สำหรับงาน Extrusion และ Thermoforming และ Ingeo 6202D สำหรับใช้ในผลิตภัณฑ์กลุ่ม Non-woven

PBS: จัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ BioPBS ของบริษัท PTTMCC BIOCHEM มีกำลังการผลิต 20,000 ตัน/ปี โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์คือ ทนร้อน และมีความยืดหยุ่น มักจะใช้งานในกลุ่ม Flexible Packaging สำหรับผลิตภัณฑ์ BioPBS ที่แนะนำในการใช้งานด้านต่างๆ เช่น BioPBS FZ79AC สำหรับงาน paper coating หรือ BioPBS FZ78TM สำหรับงาน Non-woven

Bioplastics Compound: จัดจำหน่ายภายใต้แบรนด์ PlastMate ของบริษัท GC มีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ใช้ในร้านกาแฟ อุปกรณ์ที่ใช้ในการรับประทานอาหาร รวมถึงผลิตภัณฑ์กลุ่มฟิล์มที่นำไปผลิตเป็นถุงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ โดยจุดเด่นของผลิตภัณฑ์นี้คือ เป็นผลิตภัณฑ์ Bioplastic compound ที่ออกแบบให้มีคุณสมบัติตามความต้องการของการใช้งาน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีความแข็งและมีคุณสมบัติทนร้อนได้ หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานเพิ่มมากขึ้นเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์จาก Bioplastic ปกติ ผลิตภัณฑ์ที่แนะนำสำหรับในกลุ่ม Bioplastic compound ในการใช้งานต่างๆ เช่น Plastmate PL04006E เหมาะสำหรับงาน extrusion ที่มี shelf life นานมากขึ้น เช่นงานในอุตสาหกรรมหลอด หรือ Plastmate PB05001F สำหรับงานกลุ่มประเภทฟิล์ม

ข้อดีของการใช้ผลิตภัณฑ์ Bioplastic หรือ Bio-compound คือ เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์พลาสติกทั่วๆ ไป (อ้างอิงจากผลการตรวจสอบการปลดปล่อยปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์จากวารสาร Industrial Biotechnology) และใช้การผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นแป้งข้าวโพด แป้งมันสำปะลัง หรืออ้อย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ได้ออกมาจะสามารถย่อยสลายได้ทางชีวภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ csc@pttgcgroup.com

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 6 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.เกรียงศักดิ์ วงศ์พร้อมรัตน์ ผู้จัดการฝ่าย หน่วยงานพัฒนาตลาดธุรกิจปิโตรเคมีขั้นปลาย บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายพิชิต วีรังคบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) ได้เข้าร่วมพิธีมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดการออกแบบผลิตภัณฑ์พลาสติกเพื่อการอยู่อาศัยในอนาคต (Futuristic House) ในโครงการ Creative Plastic Academy 2021 ที่จัดขึ้น ณ Material & Design Innovation Center ชั้น 2 อาคารส่วนหลัง TCDC โดยภายในงานได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานต้นแบบผลิตภัณฑ์พลาสติกสำหรับบ้านในอนาคตเพื่อตอบสนองการอยู่อาศัย 3 แบบ ได้แก่ การอยู่อาศัยที่ตอบสนองคนหลายรุ่น (Universal Design) การอยู่อาศัยเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ (Preventive House) และ การอยู่อาศัยภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส (Hygienic House) มีผลงานที่ได้รับคัดเลือกให้ขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบเพื่อนำมาจัดแสดงนี้ทั้งหมด 9 ผลิตภัณฑ์ โดยมีผลิตภัณฑ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศแต่ละกลุ่ม คือ ขวดน้ำปลาเพื่อสุขภาวะที่ดี โดยทีม Baby Boss สำหรับกลุ่ม Universal Design เก้าอี้สนามลอยน้ำได้ โดยทีม SYMmetrical สำหรับกลุ่ม Preventive House และประตูป้องกันไวรัส โดยทีม Sandbox สำหรับกลุ่ม Hygienic House

นิทรรศการ Creative Plastic Academy เปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 5-27 กุมภาพันธ์ 2565 ณ Material & Design Innovation Center ชั้น 2 อาคารส่วนหลัง TCDC โดยเป็นส่วนหนึ่งในงาน Bangkok Design Week 2022

โครงการ Creative Plastic Academy 2021 เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) และสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนให้นักออกแบบไทยได้เรียนรู้ข้อมูลพลาสติก ทั้งคุณสมบัติ กระบวนการขึ้นรูป และเทคนิคการออกแบบ ผ่านกระบวนการประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) โดยทีมวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายสถาบัน เช่น วิทยากรจาก FIF Design Studio ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ศูนย์นวัตกรรมด้านการออกแบบอุตสาหกรรม (IDIC) และอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้สามารถนำพลาสติกมาออกแบบเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสร้างความตระหนักรู้ภายในกลุ่มนักออกแบบและสังคมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์พลาสติก ว่าเมื่อเราให้ความสำคัญตั้งแต่จุดเริ่มต้นคือ การเรียนรู้วัสดุ การออกแบบ ตลอดจนการนำไปใช้และจัดการหลังหมดอายุการใช้งาน พลาสติกจะถูกนำไปใช้งานอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด

          เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ร่วมกับ องกรค์บริหารก๊าซเรือนกระจก หรือ TGO จัดงานสัมมนาออนไลน์เรื่อง “คาร์บอนฟุตพริ้นท์ เครื่องมืออุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ

สู่ Net Zero" ให้กับลูกค้า และคู่ค้าของบริษัทฯ ทั้งนี้มีผู้แทนจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง สถาบันการศึกษา และกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจเพื่อการส่งออก สนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก หัวข้อในงานสัมมนาได้บรรยายโดย

1. คุณภคมน สุภาพพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ TGO

2. คุณพวงพันธ์ ศรีทอง ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ TGO

3. คุณธาดา วรุณโชติกุล ผู้จัดการสำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ TGO

4. คุณนนทพัทธ์ แสงทรงศิลป์ นักวิชาการชำนาญการ สำนักรับรองธุรกิจคาร์บอนต่ำ TGO

งานสัมมนาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าและคู่ค้าของบริษัทฯ ได้ทำความรู้จักกับมาตรการ CBAM (Carbon Border Adjustment Mechanism) เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมาตรการนี้เป็นมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดนของสหภาพยุโรป และยังเป็นการกำหนดราคาสินค้านำเข้าบางประเภทเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงเข้ามาใน EU โดยมี 5 อุตสาหกรรมแรกที่ได้รับผลกระทบในเดือนตุลาคม 2566 นี้ คือ ซีเมนต์ บริการไฟฟ้า ปุ๋ย เหล็ก อลูมิเนียม และในปี 2569 คาดว่าอาจจะมีประกาศใช้เต็มรูปแบบสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรม พลาสติกและโพลีเมอร์

ภายในงานสัมมนามีการบรรยายให้ความรู้เรื่องการเตรียมความพร้อมของภาคธุรกิจไทย รวมถึงมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน การขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ทั้งจากนโยบายของประเทศ และผ่านการขับเคลื่อนจาก TGO ที่มีส่วนผลักดันและสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว พร้อมยกกรณีศึกษาการคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ (ด้านปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์) และฝึกคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ไปพร้อมกับผู้ชำนาญการ

GC มุ่งมั่นให้ความสำคัญกับลูกค้าและคู่ค้าของบริษัทฯ จึงพร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมทัพ เสริมความแข็งแกร่ง เสริมความพร้อมให้กับธุรกิจของลูกค้าและคู่ค้าของบริษัทฯ และก้าวไปสู่ความยั่งยืนต่อโลกไปพร้อมๆ กัน

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย (Thai Bioplastics Industry Association - TBIA) โดยคุณวิบูลย์ พึงประเสริฐ นายกสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย นำทีมสมาชิกบริษัทในสมาคมฯ รวมถึงตัวแทนจาก บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC เข้าพบ คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งมอบถุงขยะพลาสติกชีวภาพจำนวน 40,000 ใบ ในการสนับสนุนโครงการคัดแยกขยะ “ไม่เทรวม” ของกรุงเทพมหานคร

โดย GC ซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกของ TBIA ได้ร่วมสนับสนุนเม็ดพลาสติกชีวภาพสลายตัวได้ (compostable bioplastics) เพื่อผลิตถุงขยะพลาสติกชีวภาพและส่งมอบกรุงเทพมหานครผ่านทาง TBIA ในครั้งนี้

ถุงขยะพลาสติกชีวภาพสามารถนำไปใช้แยกขยะเศษอาหารในครัวเรือนและร้านค้า เมื่อหมักร่วมกับเศษอาหารและใบไม้จะสลายตัวกลายเป็นสารปรับปรุงดินและปุ๋ยชีวภาพได้ภายในระยะเวลา 180 วัน ซึ่งทางกรุงเทพมหานครจะนำไปใช้ในการคัดแยกขยะเศษอาหาร

โดยในปัจจุบันมี 3 เขตที่เริ่มนำร่องในโครงการคัดแยกขยะของกรุงเทพมหานคร และจะขยายผลไปยังเขตอื่นๆต่อไป

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหารต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2542

ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ อก. เสนอว่า

          1. ตามที่ได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. 2542 ประกาศบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 1136 – 2536

          2. ต่อมาสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) พิจารณาแล้วเห็นว่า ควรแก้ไขมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหารตามพระราชกฤษฎีกาข้อ 1 เพื่อให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าทางวิชาการและเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบันและเพื่อเป็นการส่งเสริมอุตสาหกรรมการทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหารภายในประเทศให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและมีคุณภาพ ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง

                   กำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร ต้องเป็นไปตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 1136 – 2559 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม ฉบับที่ 5508 (พ.ศ.2562) ออกตามความในพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 เรื่อง ยกเลิกและกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ฟิล์มยืดหุ้มห่ออาหาร ประกาศ ณ วันที่ 30 กันยายน 2562 โดยให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

แหล่งที่มา :  https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/38232

ดาวน์โหลด PDF         ดาวน์โหลด PDF

กลุ่มอุตสาหกรรมพลาสติก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกไทย และสถาบันพลาสติก  ขอเชิญผู้ประกอบการ นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ส่งผลงานประกวดผลิตภัณฑ์พลาสติก อย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ปี4 ภายใต้แนวคิด

The New Normal Life

หัวข้อสำหรับผู้ส่งผลงานเข้าประกวด

- กลุ่มผู้ประกอบการ เลือกส่งผลงานได้ดังต่อไปนี้

• บรรจุภัณฑ์ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Packaging) 

• บรรจุภัณฑ์ไม่ได้ใช้บรรจุอาหารและเครื่องดื่ม (Non-Food and Beverage Packaging) 

• ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และการขนส่ง (E-commerce and Logistic) 

• ผลิตภัณฑ์ใช้ในชีวิตประจาวัน (Lifestyle Product) 

• ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical and Healthcare) 

• ผลิตภัณฑ์ภาคอุตสาหกรรม (Construction/ Industrial) 

• ผลิตภัณฑ์เพื่อการศึกษา เสริมพัฒนาการ (Toy, Stationery & Education)

- กลุ่มผู้ประกอบการสามารถส่งชิ้นงานได้ 5 หมวดประเภทรางวัล Gold Awards, Silver Awards, Bronze Awards 

- กลุ่มนักศึกษา และบุคคลทั่วไป 

- รางวัล Gold Awards และเงินรางวัล 30,000 บาท

- รางวัล Silver Awards และเงินรางวัล 20,000 บาท

- รางวัล Bronze Awards และเงินรางวัล 10,000 บาท

- รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล (ถ้ามี) 5,000 บาท

โดยรางวัลชนะเลิศ Gold Awards ทั้งสองประเภท ได้เป็นตัวแทนประเทศไทยส่งผลงานเข้าประกวด Plastics Awards 2022" โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ส่งผลงานได้ตั้งแต่ นี้ - 30 เม.ย. 64

ประเภทผู้ประกอบการ Download ใบสมัครได้ที่ https://forms.gle/e9bL1QJAJjjsYyMz9  ใช้จ่ายในการสมัคร 1,500 บาทต่อ 1 ชิ้นผลงาน)



สอบถามรายละเอียดเพิ่มเดิม

ได้ที่ฝ่ายประสานงานกลุ่มฯ พลาสติก 

คุณเกษราภรณ์ โทร. 02-345-1006

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอดังนี้

1. เห็นชอบ (ร่าง) แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 1 พ.ศ. 2563 - 2565) [(ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ] เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานในการป้องกันและแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ต้องเร่งดำเนินการ ภายใต้ Roadmap การจัดการขยะพลาสติก พ.ศ. 2561 - 2573

2. มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินงานตาม (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ

ดาวน์โหลด PDF

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/39110

ตราสัญลักษณ์ MiT (Made in Thailand) เป็นตราสัญลักษณ์ของ “สภาอุตสหกรรมแห่งประเทศไทย” เพื่อใช้ในการรับรองผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในประเทศไทย นอกจากจะใช้เป็นสิทธิประโยชน์ในการเสนอขายสินค้าให้แก่ภาครัฐแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจและความเชื่อมั่นของผู้ผลิตสินค้าไทย เช่นเดียวกับ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC และบริษัทในกลุ่ม ได้แก่ บริษัท จีซี โพลีออลส์ จำกัด หรือ GCP และ บริษัท ไทย เพ็ท เรซิน จำกัด หรือ TPRC ที่ใช้สัญลักษณ์ MiT สร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภคและยกระดับสินค้าให้ได้รับความน่าเชื่อถือมากขึ้นในระดับสากล

โดย GCP ทำการขอใบรับรองสินค้าผลิตภัณฑ์เคมิคอล โพลีอีเทอร์ โพลีออล รุ่น Polyether Polyol (PGG) ผลิตโดย GC ภายใต้เครื่องหมายการค้า Genix ได้รับการรับรอง วันที่ 29 เมษายน 2564

TPRC ทำการขอใบรับรองสินค้าผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกโพลิเอททีลีน เทเรฟทาเลท เรซิน รุ่น โพลิเอททีลีน เทเรฟทาเลท เรซิน (PET) ผลิตโดย GC ภายใต้เครื่องหมายการค้า InnoPlus ได้รับการรับรอง วันที่ 1 มิถุนายน 2564

GC ทำการขอใบรับรองสินค้าผลิตภัณฑ์เม็ดพลาสติกโพลีเอทีลีน (PE) ผลิตโดย GC ภายใต้เครื่องหมายการค้า InnoPlus และ PlastMate ทั้งหมด 6 กลุ่ม ได้แก่ โพลีเอททีลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) โพลีเอททีลีนชนิดความหนาแน่นสูง คอมพาวด์ (HDPE COMPOUND) โพลีเอททีลีน ชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE) โพลีเอททีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น (LLDPE) โพลีเอททีลีนชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น เอ็มแอลแอลดีพีอี (mLLDPE) โพลีเอททีลีนผงชนิดความหนาแน่นต่ำเชิงเส้น (LLDPE Powder) ซึ่งได้รับการรับรอง วันที่ 30 สิงหาคม 2564

ในการรับรองสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย (Made in Thailand) ที่ออกโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (เป็นไปตามพระราชกำหนด) จากการผลักดันของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อจุดประกายให้เกิดการสร้างความภาคภูมิใจ ความเชื่อมั่นใน สินค้าไทย และส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในประเทศ หันมาให้การสนับสนุนสินค้าที่ผลิตใน ประเทศไทยมากขึ้น รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อคู่ค้าในต่างประเทศ นำไปสู่มติ ครม.เห็นชอบให้แก้ไข ประกาศกฎกระทรวง กำหนดพัสดุและวิธีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริม หรือสนับสนุน (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2563 (ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา 22 ธันวาคม 2563)

อ่านเพิ่มเติม

มาสเตอร์แบทช์ (Masterbatch) คือ เม็ดพลาสติกเข้มข้น ที่ผลิตโดยการผสมผงสี (pigment) หรือสารเติมแต่ง (additive) ในปริมาณสูงเข้ากับเรซินตัวพา (carrier resin) เป็นส่วนผสมที่ใช้เพื่อ ปรับเปลี่ยนสีหรือคุณสมบัติพิเศษ ให้กับผลิตภัณฑ์พลาสติกในกระบวนการผลิต มี 2 ลักษณะ คือ แบบเม็ดและแบบผง อุตสาหกรรมที่ใช้ Masterbatch แบ่งออกเป็น 3 ชนิด: 

• สารให้สี


• สารอนินทรีย์ เช่น CaCo3, Titanium เป็นต้น


• สารที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ป้องกันการติดไฟ, ป้องกันจุลินทรีย์

มาสเตอร์แบทช์ มีส่วนช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต เช่น ช่วยเรื่องการกระจายตัวที่ดี ความคงตัวสูง ควบคุมคุณภาพได้ง่าย