ค้นหา
ผลการค้นหา 1461 - 1480 จาก 1941
LL9450UP
LL9450U
LL9470U
LL9641U1
GC Film Resin Level Up สำหรับ Flexible Packaging Solution ที่พร้อมตอบเทรนด์ตลาดรักษ์โลก!
2025…Game Start !! พบกับ GC Film Resin Level Up สำหรับ Flexible Packaging Solution ที่พร้อมตอบเทรนด์ตลาดรักษ์โลก!
วันนี้ GC พร้อมพาคุณไปสัมผัสนวัตกรรมเม็ดพลาสติกคุณภาพสูง มาตรฐานสากล ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย สำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อน ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภค เพื่อโลกแห่งอนาคตที่ยั่งยืน!
เม็ดพลาสติกจาก GC มีความหลากหลาย และมีเกรดใหม่ ๆ ทั้ง PE ภายใต้แบรนด์ InnoPlus by GC และ PCR ภายใต้แบรนด์ InnoEco by GC ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับใช้ในการสร้างสูตรการผลิตในแบบต่าง ๆ ตามต้องการ สำหรับการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบอ่อนหลากหลายประเภท อาทิ Lamination film, Non-lamination film, Shrink film, Stretch film, Heavy duty bag, Squeeze tube
ตัวอย่างชิ้นงานที่ผลิตจากเม็ดพลาสติก GC ช่วยตอบโจทย์เทรนด์รักษ์โลก ได้แก่
• Mono Material PE ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เช่น ถุงแยกน้ำ (Take-away bag) ผลิตด้วยเกรด HD4000F, LL7905AO, LL7810D2V
• Downgauging shrink film ที่ช่วยลดปริมาณการใช้เม็ดพลาสติกในการผลิตฟิล์มหด ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะที่ยังคงความแข็งแรงเช่นเดิม ผลิตด้วยเกรด LL7903A, LL7905AO
• ถุงบรรจุอาหารแช่เข็ง ซองลามิเนต ที่ทนต่อแรงตกกระแทกและแรงทิ่มทะลุได้ดี ผลิตด้วยเกรด LL7905AM
• ฟิล์ม Low SIT ที่ช่วยลดอุณหภูมิในการซีล ประหยัดค่าไฟ แต่ยังคงความเหนียวหนึบแข็งแรงเช่นเดิม ผลิตด้วยเกรด LL7810D2V, LL7810AV, LL7810AW
• ฟิล์มยืดพันพาเลทแบบใช้เครื่องพัน (Industrial stretch film for machine wrap) ที่ลดการใช้พลาสติกทำให้ฟิล์มหนาน้อยลง สามารถดึงยืดได้สูง และยังคงความเหนียว แข็งแรง ผลิตด้วยเกรด LL7838AV
• หลอดบีบ (Squeeze tube) ฟิล์มหด (Shrink film) ผลิตจากเม็ดพลาสติก Post-Consumer Recycled (PCR) ที่ช่วยลดการใช้เม็ดพลาสติกใหม่ผลิตด้วยเกรด D021NF-50
GC พร้อมตอบสนองทุกความต้องการในการผลิตบรรจุภัณฑ์ของคุณ ทั้งในแง่ของความสะดวกในการใช้งาน ความแข็งแรงทนทาน และการรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นในทุกด้าน
ที่เล่ามาเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น! GC พร้อมเสิร์ฟเนื้อหาผลิตภัณฑ์เด็ด ๆ ที่ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่เพียงแต่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโต แต่ยังช่วยรักษ์โลกไปพร้อมกันตลอดปีนี้!
ENVICCO คว้ามาตรฐาน T-VER เดินหน้าสู่ธุรกิจคาร์บอนต่ำ
ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะปัญหาโลกร้อนกลายเป็นวิกฤตระดับโลกที่ทุกคนต้องร่วมกันแก้ไข ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทุกคน ซึ่งประเทศไทยมีการจัดตั้งโครงการ T-VER ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ ร่วมกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกโดยสมัครใจ
บริษัท ENVICCO โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูง เป็นโครงการแรกในประเทศไทยที่ได้รับการรับรองคาร์บอนเครดิตจากกิจกรรมโครงการ T-VER ประเภทการจัดการขยะมูลฝอยที่ใช้ระเบียบวิธีลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจ สำหรับการคัดแยกและนำกลับคืนพลาสติกจากขยะ
โครงการ T-VER ชวนทุกคนมาร่วมกันลดก๊าซเรือนกระจก
โครงการ T-VER หรือ Thailand Voluntary Emission Reduction Program คือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย เป็นกลไกที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศ โดยผู้ร่วมโครงการ T-VER จะต้องดำเนินกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก และจะได้รับคาร์บอนเครดิตเป็นการตอบแทน
ประเภทของโครงการ T-VER
ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการ T-Ver ได้ จะต้องดำเนินโครงการที่เข้าข่ายดังต่อไปนี้
Renewable Energy
หันมาใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด ทดแทนการใช้พลังงานฟอสซิล เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
Transport
หันมาใช้ระบบขนส่งที่ลดการใช้พลังงาน รวมถึงการหันมาใช้รถที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อลดการปล่อยไอเสียจากภาคการขนส่ง
Energy Efficiency
มีการบริหารและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งภายในอาคาร โรงงาน และภายในครัวเรือน
Factory
ผลิตสินค้าและดำเนินกิจการที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การปรับเปลี่ยนสารทำความเย็นธรรมชาติ และการใช้วัสดุแทนปูนเม็ด เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก
Waste
ดำเนินการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการเกิดก๊าซมีเทน ลดพื้นที่ในการฝังกลบขยะมูลฝอย
Land Use
เพิ่มพื้นที่สีเขียว และร่วมดูแลพื้นที่ป่าอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก
CCUS
Carbon Capture Utilization and Storage (CCUS) คือ เทคโนโลยีการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ โดยเป็นการดักจับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากแหล่งกำเนิด และนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในกระบวนการผลิตต่าง ๆ และส่วนที่เหลือนำไปเก็บไว้ในชั้นหิน เพื่อไม่ให้กลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ
เงื่อนไขในการเข้าร่วมโครงการ
สำหรับบริษัทที่เข้าร่วมโครงการ T-VER มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้ ดำเนินการโดยสมัครใจ ไม่มีการบังคับ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด โปร่งใสและตรวจสอบได้ สามารถแสดงเอกสารหรือหลักฐานที่จำเป็น สามารถแสดงหรือพิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นกิจกรรมที่ปฏิบัติเพิ่มเติมจากการดำเนินงานตามปกติ ALT IMG Tag: ENVICCO เข้าร่วมโครงการ T-VER โดยการนำขยะพลาสติกมาเป็นวัตถุดิบและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ENVICCO ได้รับรางวัล T-VER ลดคาร์บอนได้จริง
ENVICCO โรงงานผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลคุณภาพสูงได้เข้าร่วมโครงการ T-VER และใช้แนวทางที่ยั่งยืนในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล PCR PET หรือ rPET และ PCR HDPE หรือ rHDPE ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่ผลิตจากขวดพลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้ว 100% และ ENVICCO ได้รับใบรับรองคาร์บอนเครดิต มาตรฐาน T-VER จาก อบก. ผ่านโครงการคัดแยกและนำกลับคืนพลาสติกจากขยะ เพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกเป็นรายแรกจากการผลิตในปี 2566 คิดเป็น18,254 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
โครงการคัดแยกและนำกลับคืนพลาสติกจากขยะ เพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติกรีไซเคิลโดยบริษัท เอ็นวิคโค จำกัด
ENVICCO ได้ดำเนินการจัดทำข้อมูลการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากโครงการคัดแยกและนำกลับคืนพลาสติกจากขยะ เพื่อผลิตเป็นเม็ดพลาสติก โดยได้นำเอาขยะพลาสติกที่ใช้แล้วภายในประเทศไทยมาเป็นวัตถุดิบ พร้อมดำเนินการดังต่อไปนี้
- พัฒนาโครงการคัดแยกและนำขยะพลาสติกกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ถูกทิ้งสู่สิ่งแวดล้อม
- มีกระบวนการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลให้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากอุตสาหกรรมพลาสติก
- สร้างมาตรฐานการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้สามารถนำกลับไปใช้ผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งช่วยลดความต้องการใช้ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อผลิตเป็นพลาสติกใหม่ ก้าวต่อไป ENVICCO ตั้งเป้าที่จะปรับเปลี่ยนตัวเองให้เป็นธุรกิจคาร์บอนต่ำ และสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียนในการใช้พลาสติกที่ใช้แล้วกว่า 430,000 ตัน และมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 574,700 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายในปี 2572
ENVICCO ผู้นำการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ENVICCO ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลรายใหญ่ที่เชี่ยวชาญในการผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิลประเภท PCR PET หรือ rPET สำหรับบรรจุภัณฑ์สัมผัสอาหาร และ PCR HDPE หรือ rHDPE ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่ผลิตจากการรีไซเคิลขวดพลาสติกและบรรจุภัณฑ์พลาสติกอื่น ๆ ช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการผลิตพลาสติกใหม่ หากสนใจผลิตภัณฑ์หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรอกข้อมูลเลย
ข้อมูลอ้างอิง
- T-VER คืออะไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://ghgreduction.tgo.or.th/th/about-tver/t-ver.html
LL8420A
เข้าใจพลาสติกชีวภาพที่สลายตัวได้ทางชีวภาพอย่างแท้จริง
นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพ ประเภทพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนเพื่อบรรเทาปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าสำคัญในอุตสาหกรรมพลาสติก และเป็นหนึ่งในโซลูชันที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการขยะและส่งเสริมระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
1. พลาสติกชีวภาพและพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ : เข้าใจความแตกต่าง
1.1 พลาสติกชีวภาพ (Bioplastic)
พลาสติกชีวภาพ หรือไบโอพลาสติก (Bioplastic) คือพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าพลาสติกทั่วไป แบ่งเป็น 3 กลุ่ม
1. พลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ แต่ไม่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ
พลาสติกกลุ่มนี้ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติที่หมุนเวียนได้ เช่น แป้งมันสำปะหลัง อ้อย ข้าวโพด เช่น Bio-PE, Bio-PET ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเมื่อเทียบกับพลาสติกจากปิโตรเลียม
2. พลาสติกชีวภาพที่สลายตัวได้ทางชีวภาพแต่อาจผลิตจากปิโตรเลียม
พลาสติกกลุ่มนี้ เช่น PBAT, PCL มีโครงสร้างโมเลกุลที่จุลินทรีย์สามารถย่อยสลายได้ แม้ว่าจะผลิตจากวัตถุดิบฟอสซิล
3. พลาสติกชีวภาพที่ทั้งผลิตจากธรรมชาติและสลายตัวได้ทางชีวภาพ
พลาสติกกลุ่มนี้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด เช่น PLA, Bio PBS ช่วยลดทั้งการใช้ทรัพยากรฟอสซิลและปัญหาขยะพลาสติกตกค้าง
1.2 พลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Plastic)
พลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Plastic) คือพลาสติกสามารถสลายตัวได้ในสภาพแวดล้อมที่มีระดับความชื้น อุณหภูมิ และปริมาณจุลินทรีย์เหมาะสม เช่น PLA, PBS, PBAT, และ PHA
โดยพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- สลายตัวได้สมบูรณ์ในสภาวะการหมักที่เหมาะสม โดยต้องมีความชื้น อุณหภูมิ และปริมาณจุลินทรีย์ที่เพียงพอ
- เป็นไปตามมาตรฐาน เช่น มอก. 17088 ซึ่งกำหนดเงื่อนไขการทดสอบและระยะเวลาในการสลายตัวที่ชัดเจน
- ไม่ทิ้งไมโครพลาสติกและสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตหรือตกค้างในสิ่งแวดล้อม แตกต่างจากพลาสติกออกโซ หรือพลาสติกแตกสลายได้ชนิดออกโซ (OXO Degradable Plastics) ที่เพียงแตกตัวเป็นชิ้นเล็กลง
- กลายเป็นน้ำ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมวลชีวภาพที่ปลอดภัย ผ่านกระบวนการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์
ความแตกต่างระหว่างพลาสติกที่ย่อยสลายได้จริงและการโฆษณาเกินจริง
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง จำเป็นต้องทราบว่าในตลาดมีการใช้คำโฆษณาที่สร้างความสับสน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่า "ย่อยสลายได้" แต่มีคุณสมบัติและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกัน อย่างเช่น พลาสติกออกโซ ข้อมูลต่อไปนี้จะช่วยให้เข้าใจถึงอันตรายที่อาจเกิดจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
2. อันตรายจากพลาสติกออกโซและไมโครพลาสติก
พลาสติกชนิดออกโซ (OXO Degradable) : มีการเติมสารเร่งให้พลาสติกแตกสลาย แต่เป็นเพียงการแตกตัวเป็นชิ้นเล็กลงจนเกิดเป็นไมโครพลาสติก และไม่ได้ย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ทางชีวภาพ
ผลกระทบของไมโครพลาสติก
- ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม กำจัดยาก เนื่องจากมีขนาดเล็กมาก ทำให้ไม่สามารถกรองออกได้ด้วยวิธีการปกติ
- ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตในน้ำ สัตว์น้ำกินไมโครพลาสติกเข้าไปโดยเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร
- กระทบต่อระบบการหายใจ การย่อยอาหาร การสืบพันธุ์ ในสิ่งมีชีวิตหลายชนิด
- มีการปนเปื้อนเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารของมนุษย์ ผ่านอาหารทะเล น้ำดื่ม และอากาศ
3. กลไกการย่อยสลายพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพและมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง
การแตกสลายทางชีวภาพ คือกระบวนการที่สารอินทรีย์ถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ เป็นสารที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ได้แก่ คาร์บอนไดออกไซด์ น้ำ และสารปรับปรุงดิน
ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราการย่อยสลาย
การย่อยสลายพลาสติกชีวภาพ ต้องการสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม โดยมีปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพและระยะเวลาในการสลายตัว ดังนี้
- ชนิดของวัสดุ โครงสร้างทางเคมีและความซับซ้อนของโมเลกุล
- ความร้อน ความชื้น และจุลินทรีย์ เป็นปัจจัยสำคัญต่อประสิทธิภาพการย่อยสลาย
มาตรฐานสำคัญเกี่ยวกับการย่อยสลายพลาสติก
เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์พลาสติกที่อ้างว่า "ย่อยสลายได้ทางชีวภาพ" มีคุณสมบัติตามที่กล่าวจริง หลายประเทศได้กำหนดมาตรฐานที่ชัดเจนเพื่อตรวจสอบและรับรอง โดยมาตรฐานเหล่านี้กำหนดทั้งระยะเวลาและเงื่อนไขในการย่อยสลาย รวมถึงความเป็นพิษต่อพืชและสิ่งแวดล้อม และมาตรฐานสำคัญที่ควรรู้จัก ได้แก่
- มาตรฐานในไทย: มอก. 17088-2562 สำหรับพลาสติกที่สลายตัวได้ด้วยกระบวนการหมัก
- มาตรฐานในต่างประเทศ: ASTM D6400 (สหรัฐฯ), EN13432 (ยุโรป), AS 4736 (ออสเตรเลีย)
4. การเลือกใช้พลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพและการกำจัดอย่างถูกวิธี
การใช้งานที่เหมาะสม
พลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ เหมาะกับใช้ผลิตเป็น
- บรรจุภัณฑ์ใส่อาหารใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น ถ้วย จาน ช้อนส้อม แก้ว
- ถุงขยะอินทรีย์ ที่สามารถหมักรวมไปกับเศษอาหาร
- ผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะตกค้างในสิ่งแวดล้อม
การกำจัดที่ถูกต้อง
การกำจัดพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพอย่างถูกต้อง ควรหมักรวมกับขยะอินทรีย์อื่น ๆ แบ่งเป็น
- การหมักแบบอุตสาหกรรม (Industrial Compostable) ที่อุณหภูมิประมาณ 58°C ขึ้นไป ความชื้นสัมพัทธ์ 90% ขึ้นไป ใช้เวลาประมาณ 6 เดือน
- การหมักที่บ้าน (Home Compostable) ที่อุณหภูมิ 25°C ขึ้นไป ความชื้นสัมพัทธ์ 50-60% ใช้เวลาประมาณ 12 เดือน
ตราสัญลักษณ์และการรับรอง
ตราสัญลักษณ์และการรับรองพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ จะช่วยให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าเป็นพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพจริง และช่วยให้การคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทางมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยลดปัญหาการ "ฟอกเขียว" (Greenwashing) หรือการกล่าวอ้างว่าเป็นวัสดุรักษ์โลกเกินจริง
โดยตราสัญลักษณ์และการรับรองพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพ มีหลายรูปแบบด้วยกัน เช่น
- DIN CERTCO (เยอรมนี) มาตรฐานรับรองที่เข้มงวดระดับโลก
- Biodegradable Products Institute (สหรัฐฯ) รับรองผลิตภัณฑ์ในอเมริกาเหนือ
- สมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพไทย (TBIA) รับรองผลิตภัณฑ์ในประเทศไทย
- ตราสัญลักษณ์ GC Compostable Label ฉลากที่บ่งบอกว่าสินค้า หรือบรรจุภัณฑ์นั้นผลิตจากเม็ดไบโอพลาสติกที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable plastics) ที่กลุ่มบริษัท GC ผลิตหรือรับรอง
5. ความท้าทายและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
แม้ว่าพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพจะเป็นนวัตกรรมที่มีประโยชน์ แต่การขับเคลื่อนสู่อนาคตที่ยั่งยืนยังมีความท้าทายที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไข เพื่อให้การใช้นวัตกรรมเหล่านี้เกิดประโยชน์สูงสุด
ปัญหาที่พบในปัจจุบัน
การใช้พลาสติกชีวภาพยังประสบกับอุปสรรคหลายประการที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะประเด็นเหล่านี้
- ความสับสนในการเลือกใช้งาน ผู้บริโภคยังขาดความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างของพลาสติกแต่ละประเภท
- ขาดการกำกับดูแล ในหลายประเทศยังขาดกฎระเบียบที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้คำว่า "ย่อยสลายได้"
- การฟอกเขียว (Greenwashing) บริษัทบางแห่งสร้างภาพลักษณ์ว่าผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเกินจริง
5 หลักการสู่การใช้พลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน
การแก้ไขปัญหาพลาสติกอย่างยั่งยืนจำเป็นต้องมีแนวทางที่ครอบคลุมและเป็นระบบ โดยยึดหลัก 5 ประการที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ทั้งในระดับบุคคล ธุรกิจ และนโยบายสาธารณะ
- ลดการใช้ (Reduce) การเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือการลดการบริโภคที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง การเลือกซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์น้อย หรือการนำภาชนะส่วนตัวไปซื้อสินค้าเป็นการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง
- หมุนเวียน (Renewable) การสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่สามารถปลูกทดแทนได้ เช่น พืชเกษตร แทนการใช้วัตถุดิบจากฟอสซิลที่มีจำกัด นอกจากลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกแล้ว ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ภาคเกษตรกรรมอีกด้วย
- กลับมาใช้ใหม่ (Reuse) การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้ซ้ำได้หลายครั้ง แทนการผลิตแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง ซึ่งจะช่วยลดการใช้ทรัพยากรและลดปริมาณขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รีไซเคิล (Recycle) การพัฒนาระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ และออกแบบผลิตภัณฑ์ให้รีไซเคิลได้ง่าย ไม่มีการผสมวัสดุหลายชนิดที่แยกออกจากกันยาก จะช่วยให้วัสดุมีค่าถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์ต่อไปได้
- สลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable) การใช้วัสดุที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพสำหรับผลิตภัณฑ์เฉพาะที่ยากต่อการรีไซเคิล หรือมีความเสี่ยงสูงที่จะตกค้างในสิ่งแวดล้อม เช่น ถุงเก็บขยะอินทรีย์ บรรจุภัณฑ์อาหารที่ปนเปื้อน จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว
6. นวัตกรรมพลาสติกชีวภาพ ประเภทพลาสติกที่สลายตัวได้ทางชีวภาพจาก GC
เทคโนโลยีการผลิตพลาสติกชีวภาพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
GC ใช้เทคโนโลยีทันสมัยในการพัฒนาพลาสติกชีวภาพที่สลายตัวได้ โดยใช้วัตถุดิบจากพืชที่ปลูกในประเทศไทย เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ซึ่งช่วยสนับสนุนเกษตรกรไทยและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่หลากหลาย
ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพของ GC เหมาะกับการใช้งานหลายประเภท ทั้งบรรจุภัณฑ์อาหาร ถุงขยะอินทรีย์ บรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค และผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่าง ๆ
การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์
GC ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตลอดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment) จากงานวิจัยพบว่า พลาสติกชีวภาพประเภทสลายตัวได้ทางชีวภาพของ GC สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 50% เมื่อเทียบกับพลาสติกทั่วไป
นวัตกรรมพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพ เป็นทางเลือกสำคัญในการแก้ปัญหาขยะพลาสติก เมื่อร่วมกับหลักการใช้พลาสติกอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีตราสัญลักษณ์และมาตรฐานรับรองที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง
GC คือผู้นำด้านการผลิตพลาสติกสลายตัวได้ทางชีวภาพคุณภาพสูง ช่วยลดปัญหาสิ่งแวดล้อมและลดปริมาณขยะพลาสติก หากสนใจผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพจากโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพ GC หรือต้องการข้อมูลเพิ่มเติม สามารถกรอกข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของ GC ติดต่อกลับได้ทันที
ข้อมูลอ้างอิง
- พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 จาก https://www.mtec.or.th/bio-plastic/plastics-degradation/biodegradable-plastic.html
- พลาสติกย่อยสลายได้ทางชีวภาพ. สืบค้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2568 จาก http://otop.dss.go.th/index.php/en/knowledge/informationrepack/394-biodegradable-plastics?showall=1&limitstart=
กิจกรรม X PURGE by GC: Enhancing Efficiency for Injection Molding ณ InnoPlus Solution Center จ.ระยอง
1 เมษายน 2568 บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GC ได้จัดกิจกรรม X PURGE by GC: Enhancing Efficiency for Injection Molding แก่กลุ่มลูกค้าผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการขึ้นรูปพลาสติกแบบฉีด (Injection molding) ที่ให้ความสนใจเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานของ InnoPus Solution Center หรือ ISC และชมการสาธิตการใช้งานผลิตภัณฑ์เม็ดล้างเครื่องจักร X PURGE by GC
กิจกรรมครั้งนี้ คุณเนตรนิภา เรณูชาติ ผู้จัดการฝ่าย Emerging Platform, GC ได้กล่าวต้อนรับลูกค้าและเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ GC ในการสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และคุณกวิล ชูวิเชียร ผู้จัดการฝ่าย Application Solutions, GC ได้แนะนำภาพรวมการดำเนินงานของ InnoPlus Solution Center ซึ่งเป็นศูนย์นวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรของ GC ที่พร้อมให้บริการและสนับสนุนผู้ประกอบการในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การออกแบบแนวคิด การเลือกใช้วัสดุ การพัฒนาสูตรและทดสอบคุณภาพเม็ดพลาสติก เพื่อให้พร้อมขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบ
โดยกิจกรรมสำคัญของงานในครั้งนี้คือการสาธิตการใช้งาน X PURGE by GC ผลิตภัณฑ์เม็ดล้างเครื่องจักรคุณภาพสูง ที่สามารถทำความสะอาดเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และลดการสูญเสียวัตถุดิบ ซึ่งได้รับการตอบรับและความสนใจจากลูกค้าที่เข้าร่วมงานเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้าร่วมงานยังได้รับฟังคำแนะนำจากทีมเทคนิคและนักวิจัยของ GC อย่างใกล้ชิด ทำให้เข้าใจในคุณสมบัติและประโยชน์ของผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น
GC หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และเป็นแนวทางให้กับผู้ประกอบการในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิตต่อไป
HD2502C
HD2502C
HD2502C
GCM จัดการอบรมเพื่อทบทวนและสาธิต การใช้ผลิตภัณฑ์เม็ดล้างเครื่อง X PURGE และ นำเสนอเว็บไซต์ใหม่ให้แก่คู่ค้า
21 สิงหาคม 2021
วันที่ 21 สิงหาคม 2021 ทาง GC Marketing Solutions ได้จัดกิจกรรม “X PURGE product refresh and demonstration the launch of X PURGE new website” ให้กับทาง Authorize trader ของ GCM ได้แก่ บริษัท ชิบาอุระ แมชชีน แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ไทยแลนด์ จำกัด, บริษัท ฮันวาไทย จำกัด, บริษัท บีซี โพลิเมอร์ส มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, บริษัท ปิโตร โพลิเมอร์ส จำกัด, บริษัท ปิโตรพลัส เคมีคอล จำกัด, บริษัท โปลิเมอส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด, และบริษัท เลียกเซ้ง เทรดดิ้ง จำกัด เพื่อเป็นการทบทวนการใช้งาน พร้อมทั้งข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ X PURGE และมีการแนะนำผลิตภัณฑ์เกรดใหม่คือ X PURGE PX319 ซึ่งทางสถาบันวิจัยได้วิจัยและพัฒนาสูตร X PURGE PX319 นี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาด โดยมีจุดเด่น คือ มีควันและกลิ่นน้อย เหมาะสำหรับเครื่องจักรที่ผลิตใน Clean Room หรือการผลิตสินค้าด้านสุขอนามัยต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังได้มีการแนะนำและสาธิตการใช้งานเว็บไซต์ใหม่ของ X PURGE ที่มีคุณลักษณะใหม่ คือ สามารถค้นหาผลิตภัณฑ์ X PURGE ที่เหมาะสมกับการใช้งาน และใช้โปรแกรมประมวลผลเพื่อคำนวณมูลค่าเพิ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ X PURGE ได้
จากกิจกรรมนี้ ทำให้ทางลูกค้าได้ทบทวนความเข้าใจผลิตภัณฑ์ X PURGE และสามารถใช้งานโปรแกรมประมวลบนเว็บไซต์ใหม่ เพื่อช่วยในการตัดสินใจใช้งานผลิตภัณฑ์ X PURGE ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการขายและขยายตลาด X PURGE ต่อไป
พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ X PURGE ระหว่าง GCM และ Veechem Global Fzco
25 เมษายน 2018
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2560 คุณสมศรีสมศรี พาณิชย์รุ่งเรือง ผู้จัดการฝ่ายขายต่างประเทศ คุณไพบูลย์ ประภัสสรชัยกุล ผู้จัดการฝ่ายขายผลิตภัณฑ์พิเศษ ร่วมด้วย คุณวัชระสิทธิ์ เหรียญศรีวงศ์ ผู้จัดการฝ่ายสนับสนุนเทคนิคของ บริษัท จีซี มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ จำกัด และ Ms. Emma Mokoena ผู้จัดการธุรกิจเคมีและผลิตภัณฑ์พิเศษ Engen Petroleum Ltd. เข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจในการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ X PURGE ระหว่าง GCM และ Engen Petroleum Ltd. ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ โดย MOU นี้ จะสร้างความร่วมมือและมูลค่าทางธุรกิจระหว่าง Veechem Global Fzco และ GCM ที่ดีร่วมกันในอนาคต สำหรับพิธีลงนามนี้จัดขึ้นที่ Engen Petroleum Ltd. เมืองเคปทาวน์ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้